คู่รักส่วนใหญ่ที่ไปกันไม่รอดมักจะเกิดขึ้นมาจากความเห็นแก่ตัว บางคนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี หรือในบางครั้งก็ทำให้อีกฝ่ายก็ตัดใจโดยที่ตัวเองไม่ได้สนใจเลยว่าสิ่งนั้นทำร้ายจิตใจคนรักมากแค่ไหน บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่มันสร้างผลกระทบต่อจิตใจคนรักมากน้อยแค่ไหน สนใจแค่ว่าตัวเองพึงพอใจหรือเปล่าหรือตัวเองมีความสุขกับตัวเลือกนี้หรือเปล่า แน่นอนว่าคู่รักหลายๆคู่ก็ไม่สามารถที่จะคงความรักเอาไว้ได้เพราะมีคนหนึ่งคนจ้องจะเอาเปรียบจากฝ่าย เรามาดูกันดีกว่าว่าคุณกำลังเป็นแบบนี้หรือเปล่า
อย่างแรกที่ต้องทำความเข้าใจ ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์และมีแต่ข้อดี สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนจะต้องเข้าใจด้วยว่าทุกๆคนมีข้อเสีย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถยอมรับข้อเสีย ได้ทั้งหมดหรอกถึงแม้ว่าในตอนแรกเขาจะบอกว่าเขารับได้แต่พอเวลาต่อมาเขาก็คงจะไม่ทนอย่างแน่นอน บางครั้งในเรื่องบนเตียงคุณเห็นว่าแฟนชอบดูหนังเอ็กแบบไหนคุณก็ยอมที่จะตอบสนองเขาในแบบหนังเอ็กนั้นซึ่งจริง ๆ แล้วคุณไม่ได้ชอบหนังเอ็กนั่นสักหน่อยเลยแต่ว่าคุณอยากให้ของคุณนั้นพอใจแล้วคิดว่าสักพักคุณก็คงจะชินกับการทำตามหนังเอ็กแบบนี้แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณเริ่มที่จะทนไม่ได้แล้วคุณก็ต้องการที่จะใช้หนังเอ็กในแบบที่คุณชอบเหมือนกันเขาก็จะคิกว่าทำไม่สิ่งที่ทำให้แต่ก่อนถึงทำให้ไม่ได้ซึ่งถ้ามองในมุมกลับกันคุณหรือเปล่าที่เป็นฝ่ายส่งเริมให้เขานั้นเห็นแก่ตัวแต่ถ้าไม่ใช่ก็ลองมาดูกันว่ามีนิสัยอะไรอีกบ้าง
ข้อที่หนึ่งทะเลาะกันโดยไม่ฟังอีกฝ่าย ในขณะที่กำลังถกเถียงกันอยู่นั้นคุณควรที่จะไตร่ตรองการโต้แย้งของตัวเองเพื่อที่คุณจะได้มีเวลาในการฟังอีกฝ่ายให้มากขึ้นเพราะนี่ก็คือปัญหาหมายเลขหนึ่งเลยคู่รักส่วนใหญ่จะถนัดมากในการแสดงอารมณ์หงุดหงิดจากนั้นก็จะเริ่มโต้เถียงเมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูดก็จะไม่สนใจในรายละเอียดอะไรที่เขาพูดออกมาและในบางคู่ก็จะรีบสร้างกำแพงขึ้นมาทันทีและแสดงท่าทีต่อต้านเมื่อรู้สึกไม่สบอารมณ์เพราะฉะนั้นคุณควรที่จะหัดฟังและทำความเข้าใจกับสิ่งที่คู่ของคุณพยายามจะอธิบายโดยหลีกเลี่ยงการประชดประชันหรือพูดจาหยาบคายบางครั้งการจดบันทึกสิ่งที่คุณพูดไปแล้วมานั่งอ่านอย่างตั้งใจนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้มันเบาลงได้
ข้อที่สองไม่ยอมเล่าปัญหาให้อีกฝ่ายฟังทั้งปัญหาส่วนตัวและปัญหาความสัมพันธ์ เรายังไม่มีพลังวิเศษที่จะเจอคนอื่นแล้วก็สามารถที่จะอ่านใจเขาได้เลยคู่ของคุณก็เช่นกันการที่คิดเอาเองว่าอีกฝ่ายควรจะรู้ว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับคุณแล้วเขาต้องทำตัวยังไงการที่คุณไม่บอกให้เขารู้มันก็เหมือนกับเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างหนึ่ง ทั้งเรื่องความเครียดที่คุณเจอในที่ทำงานความกังวลเรื่องการเงินหรือพฤติกรรมของเขาที่รบกวนคุณสิ่งเหล่านี้เองถ้าคุณไม่บอกออกมาก็ไม่มีใครที่จสามารถรับรู้ได้และปัญหาก็จะถูกแก้แบบไม่ถูกต้อง